ประกาศความเป็นส่วนตัว

บริษัทวีเซิร์ฟพลัส จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดให้มีประกาศความเป็นส่วนตัวนี้  เพื่อให้ผู้ใช้บริการ คู่ค้า ลูกค้า ของบริษัทได้รับทราบถึงนโยบายของบริษัทซึ่งเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (“การประมวลผล”) รวมถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินการ รายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และวิธีการติดต่อกับบริษัท โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยความโปร่งใสชัดเจน และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทขอให้ท่านโปรดอ่านเอกสารฉบับนี้เพื่อความเข้าใจถึงการประมวลผลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่ปรากฏในเอกสารนี้

1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ ของบริษัท ดังนี้

1.1 เพื่อให้บริษัทสามารถจัดการคำสั่งซื้อสินค้า และ/หรือบริการ การบำรุงรักษา การใช้ระบบไอที การจัดส่งสินค้า การจัดทำบัญชีและภาษีอากร การทำธุรกรรมสัญญา การทำธุรกรรมทางการเงิน การจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารงานบุคคล รวมถึงการจัดการลูกค้าสัมพันธ์

1.2 เพื่อดำเนินการทางการตลาด และวิเคราะห์ข้อมูล (Marketing and Data Analysis) รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการวิจัยทางการตลาด เช่น ทำแบบสอบถาม เข้าสัมภาษณ์

1.3 เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ (เช่น การเข้ามายังสถานที่ของบริษัท) การจัดให้มีมาตรการควบคุม ป้องกัน ยับยั้ง และ/หรือ รักษาโรคระบาด หรือกรณีฉุกเฉินเพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิต ร่างกายของบุคคลอื่นใด การพิสูจน์และยืนยันตัวตน การเข้าสู่ระบบ (Log in) เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับบริษัท

1.4 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย

1.5 เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

1.6 เพื่อใช้ในการสมัครงาน การเป็นพนักงานของบริษัท หรือเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง

1.7 เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามที่บริษัทได้ประกาศให้ทราบ หรือได้รับความยินยอม

2. การเก็บรวบรวมและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัท และเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผลอาจเกิดขึ้นจากการติดต่อกับท่านโดยตรง ผ่านตัวแทน หรือผู้ประสานงานที่ติดต่อกับบริษัท เช่น การเข้ามายังสำนักงานของบริษัท การติดต่อเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ การติดต่อบริษัทผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ของบริษัท การเข้ามาในบริเวณพื้นที่ที่สำนักงาน หรือบริเวณที่มีการจัดประชุม สัมมนา หรือจัดกิจกรรมใด ๆ ซึ่งอาจมีการบันทึกวีดีโอกิจกรรมหรือภาพถ่ายเพื่อบันทึกข้อมูลการจัดกิจกรรม โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบหากมีการบันทึกวีดีโอหรือภาพถ่ายนั้น โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมจากท่าน เช่น

2.1 ใข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากบัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารที่ทางราชการออกให้ที่สามารถใช้ในการยืนยันตัวตนได้ เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ เลขที่บัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง รูปถ่าย ข้อมูลเสียง ข้อมูลภาพ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ สถานที่เกิด ส่วนสูง ลายเซ็น ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลทางการแพทย์ รวมทั้งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้ เป็นต้น

2.2 ข้อมูลสำหรับติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล นามบัตร สถานที่ทำงาน ข้อมูลสมาชิกในครอบครัว เป็นต้น

2.3 ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้าและบริการ เช่น ประวัติการสั่งซื้อ หมายเลขการสั่งซื้อ เป็นต้น

2.4 ข้อมูลที่ได้จากระบบอัตโนมัติหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น การจัดเก็บคุกกี้ ตามที่กำหนดไว้ตาม นโยบายการใช้คุกกี้ (https://www.vserveplus.co.th/cookie-policy/)

2.5 ข้อมูลอื่นใดที่ตามที่บริษัทได้ประกาศให้ทราบ หรือได้รับความยินยอม

​บริษัทจะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด เช่น (1) เมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดอย่างชัดแจ้ง (2) เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา รวมทั้งการปฏิบัติตามนโยบายต่าง ๆ ของบริษัทเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของคู่สัญญา (3) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย (4) เพื่อประโยชน์สาธารณะ เช่น กรณีที่มีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยและประโยชน์ของสาธารณะ หรือปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานของรัฐ (5) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อการบริหารจัดการภายใน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลในกลุ่มธุรกิจเดียวกันเพื่อยกระดับมาตรฐานในการทำงานของบริษัท การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทรวมถึงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ รวมทั้งการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำผิดตามกฎหมาย

ทั้งนี้บริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ หรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น

3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังบุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดโดยปราศจากความยินยอม และจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้เท่านั้น อย่างไรก็ดี เพื่อประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทและการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูล บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ให้แก่ ผู้บริหาร กรรมการ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง พนักงาน ตัวแทน ที่ปรึกษา ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก รวมทั้งบุคคลอื่นใดที่กระทำการในนามของหรือได้รับมอบอำนาจจากบริษัท หรือบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้วัตถุประสงค์ในดำเนินธุรกิจของบริษัทโดยบริษัทจะดำเนินการประสานงานให้หน่วยงานและบุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่บริษัทได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่หน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ หรือภาระหน้าที่ทางกฎหมาย

4. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

4.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามการเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว

4.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ขอทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้ให้ความยินยอม

4.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

4.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล

4.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

4.6 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

4.7 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อผ่าน “ช่องทางการติดต่อของบริษัท” เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนดได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งนี้บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลตามคำร้องของเจ้าของข้อมูล ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องดังกล่าว อย่างไรก็ดีบริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้หากมีกฎหมายกำหนดไว้

5. แนวทางในการดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้มาตรการที่เหมาะสมทางด้านเทคนิคและการบริหารองค์กร เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเต็มที่ และจะทำการอบรมพนักงานของบริษัท ให้ได้รับข้อมูลที่เพียงพอ และตระหนักถึงขั้นตอนเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ แนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

6. การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจทำการปรับปรุงแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของบริษัท และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงบริษัทจะประกาศแจ้งฉบับปัจจุบันให้ทราบอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ https://www.vserveplus.co.th

7. ช่องทางการติดต่อบริษัท

บริษัทวีเซิร์ฟพลัส จำกัด

เลขที่ 88/1 ถนนพัฒนาชนบท 3 คลองสองต้นนุ่น ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520

เบอร์โทรศัพท์: 0-2666-9600

อีเมล: DPO@vserveplus.co.th